กฎกระทรวง
กำหนดฐานะและเงื่อนไขการอยู่ในราชอาณาจักรไทยของผู้เกิดในราชอาณาจักรไทยซึ่งไม่ได้สัญชาติไทย
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 วรรคหนึ่ง และมาตรา 7 ทวิ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้
ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในกฎกระทรวงนี้
“เด็กกำพร้า” หมายความว่า
เด็กซึ่งเกิดในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้สัญชาติไทยและบิดาและมารดาของเด็กนั้นเสียชีวิต
หรือไม่ปรากฏบิดาและมารดาหรือไม่สามารถสืบหาบิดา และมารดาของเด็กนั้นได้ ทั้งนี้
ไม่ว่าจะอยู่ในความอุปการะของบุคคลหรือสถานสงเคราะห์ที่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก
หรือเป็นเด็กเร่ร่อน
ข้อ 2 ผู้เกิดในราชอาณาจักรไทยซึ่งไม่ได้สัญชาติไทยตามมาตรา 7 ทวิ วรรคหนึ่ง
ให้มีฐานะการอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยเช่นเดียวกับบิดาหรือมารดาในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้นั้นมากกว่าตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้
(1)
ผู้เกิดจากบิดาและมารดาซึ่งเป็นคนต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง
ให้มีฐานะเช่นเดียวกับบิดาและมารดา
และผ่อนผันให้อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้เป็นกรณีพิเศษ
เพื่อรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรพร้อมบิดาหรือมารดา
(2)
เด็กกำพร้าซึ่งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มีหนังสือรับรอง
ให้ได้รับการผ่อนผันให้อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย
ข้อ 3 ในกรณีที่ฐานะการอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยของบิดาและมารดา
หรือบิดาหรือมารดาตามข้อ 2 สิ้นสุดลง
ให้ฐานะการอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยของผู้เกิดในราชอาณาจักรไทยซึ่งไม่ได้สัญชาติไทยนั้นสิ้นสุดลงด้วย
เว้นแต่ผู้นั้นมีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ ให้คงฐานะการอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยต่อไปได้
(1) มีอายุไม่น้อยกว่าสิบแปดปี หรือบรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส
ยกเว้นบุคคลหรือกลุ่มบุคคลซึ่งได้รับการพิสูจน์หรือรับรองจากต่างประเทศว่าเป็นคนสัญชาติของประเทศนั้นและสมัครใจที่จะกลับออกไปนอกราชอาณาจักร
(2) ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศที่บิดาหรือมารดามีหรือเคยมีภูมิลำเนาหรือเคยอาศัยอยู่ได้ ทั้งนี้
ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
(3) มีผู้ปกครอง สามี ภรรยา หรือบุตร เป็นผู้มีสัญชาติไทย
(4)
มีภูมิลำเนาเป็นหลักแหล่งในราชอาณาจักรและพำนักอยู่ในราชอาณาจักรอย่างต่อเนื่อง
เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง
ให้เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและได้กลับเข้ามาในราชอาณาจักรภายในระยะเวลาที่กำหนด
(5) อยู่ระหว่างการศึกษาในสถานศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการรับรอง
(6) เป็นผู้ที่ได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
ผู้เกิดในราชอาณาจักรไทยซึ่งไม่ได้สัญชาติไทยหรือผู้มีส่วนได้เสียซึ่งประสงค์จะขอหนังสือรับรองการคงฐานะการอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยต่อไปตามวรรคหนึ่ง
ให้ยื่นคำขอพร้อมด้วยเอกสารหรือหลักฐานต่อนายอำเภอหรือผู้อำนวยการเขต ณ
ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขตแห่งท้องที่ที่ผู้นั้นมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือทะเบียนประวัติ
แล้วแต่กรณี เพื่อประโยชน์แห่งการนี้
ให้นายอำเภอหรือผู้อำนวยการเขตมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ยื่นคำขอทราบภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำขอ
คำขอและหนังสือรับรองตามวรรคสอง
ให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีกรมการปกครองประกาศกำหนด
ข้อ 4 ผู้เกิดในราชอาณาจักรไทยซึ่งไม่ได้สัญชาติไทยและมีอายุไม่น้อยกว่าสิบแปดปีอาจถูกเพิกถอนฐานะการอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้
เมื่อปรากฏว่า
(1) กระทำการใด ๆ อันเป็นการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงหรือขัดต่อประโยชน์ของรัฐหรือเป็นการเหยียดหยามประเทศชาติ
หรือ
(2) กระทำการใด ๆ
อันเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
รัฐมนตรีโดยข้อเสนอแนะของคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติ
อาจสั่งเพิกถอนฐานะการอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยของบุคคลตามวรรคหนึ่ง
หรือสั่งให้ผู้นั้นอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยต่อไปก็ได้ ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงความมั่นคง
ประโยชน์ของรัฐ และสิทธิมนุษยชนประกอบกัน
ให้ไว้ ณ วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2560
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
หมายเหตุ :-
เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 7 ทวิ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 บัญญัติให้ผู้เกิดในราชอาณาจักรไทยซึ่งไม่ได้สัญชาติไทยจะอยู่ในราชอาณาจักรไทยในฐานะใด
ภายใต้เงื่อนไขใด ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
ภวรรณตรี/จัดทำ
16
สิงหาคม 2560
พิมพ์มาดา/ตรวจ
16
สิงหาคม 2560
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น